More products
หนมหวัก
อาหารว่าง/ทานเล่น
$
$
หนมหวักเป็นขนมโบราณที่มีเฉพาะในภาคใต้ของประเทศไทย พบได้ในจังหวัดตรัง สงขลา และ นครศรีธรรมราช เป็นขนมโบราณที่ได้รับวัฒนธรรมจากจีน มีชื่อเรียกตามภาชนะที่ใช้ในการขึ้นรูปในการ ทอด คือ จวัก หรือเรียกว่า “หวัก” ซึ่งมีลักษณะคล้ายทัพพีโดยมีส่วนผสมหลักเป็นแป้งที่ทำมาจากถั่ว เหลืองแช่น้ำนําไปโม่ผสมกับแป้งชนิดอื่น และไส้ที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์บด ถั่วงอก และกุยช่าย นําไปทอดจนเหลืองกรอบรับประทานกับน้ำจิ้มที่มีความแตกต่างกันแต่ละจังหวัดโดยจะมีรสเปรี้ยวนํา ตามด้วยหวานและเค็มกับเผ็ดเล็กน้อย หากเป็นคนตรังจะนิยมรับประทานกับน้ำจิ้มค้อมเจือง ถ้าเป็นทางนครศรีธรรมราช และสงขลาจะรับประทานกับน้ำจิ้มที่มีลักษณะคล้ายกับน้ำจิ้มไก่แต่เหลวกว่า โดยหากได้มีโอกาสเดินตลาดเช้าจะพบเห็นบรรดาแม่ค้าทอดหนมหวักขายให้ได้ลองซื้อรับประทานกัน ซึ่งคนในพื้นที่จะนิยมซื้อมารับประทานเป็นมื้อเช้ากับชาและกาแฟก็สามารถอิ่มท้องได้โดยไม่ต้องรับประทานข้าว อย่างไรก็ตามด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันมักจะพบเห็นหนมหวักขายในตลาดช่วงเย็นอีกด้วย ดังนั้นหนมหวักที่เคยเป็นอาหารเช้าก็สามารถเป็นอาหารว่าง หรืออาหารทานเล่นได้ในทุกมื้อและช่วงเวลา
ลักษณะของหนมหวัก
หนมหวักเป็นอาหารที่มีรูปร่างกลมแบน แต่ป่องตรงกลาง ด้านนอกสีน้ำตาล ด้านในสีขาว แป้งเป็นโพรง เบา กรอบนอกนุ่มใน โดยเนื้อสัมผัสภายในของแป้งจะไม่แฉะ ไส้มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ ถั่วงอก ไส้มีกลิ่นหอมของกุยช่าย พริกไทย รสชาติกลมกล่อม
วิธีการรับประทาน
หนมหวักสามารถรับประทานเป็นอาหารมื้อเช้าโดยรับประทานกับชา กาแฟ และติ่มซำประเภทต่าง ๆ หรือรับประทานเป็นอาหารมื้อว่างได้เช่นกัน เนื่องจากหนมหวักมีส่วนประกอบทั้งคาร์โบไฮเดรต จากแป้ง โปรตีนจากเนื้อสัตว์และถั่วเหลือง วิตามินจากผัก และไขมันจากน้ำมันที่ทอด ทำให้ได้รับอาหารเกือบครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ โดยเวลารับประทานจะบิชิ้นขนมให้แยกออกจากกันจนมองเห็นไส้ด้านใน จากนั้นราดด้วยน้ำจิ้มให้ชุ่มทั่วไส้ขนม เพียงเท่านี้ก็จะได้หนมหวักที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมมีรสชาติครบ ทุกรสทั้งเปรี้ยว หวาน และเค็ม อย่างไรก็ตามหนมหวักเมื่อทิ้งไว้เป็นเวลานานเกิน 1 ชั่วโมง ความกรอบ ของขนมจะหายไป ดังนั้นเพื่อความอร่อยจึงควรรับประทานตอนที่ทอดเสร็จใหม่ ๆ เพราะแป้งจะยังคงความกรอบ
หนมหวักกับงานเทศกาลและประเพณีต่าง ๆ
หนมหวักเป็นขนมที่ไม่ได้ทำกันเป็นพิเศษในเทศกาลหรือประเพณีใด เป็นขนมที่ทำรับประทานกันตลอดทั้งปี แต่มีให้พบเห็นเฉพาะภาคใต้เท่านั้น เนื่องจากชื่อขนมมีที่มาจากจวัก ที่เรียกกันเฉพาะทาง ภาคใต้ของประเทศไทย
____________________________
ข้อมูลโดย ทิพย์พิกา ธรฤทธิ์
Left
Right
Made on
Tilda